หมวดหมู่: Uncategorized (Page 1 of 3)

แอปเปิ้ลเหลือง ผลไม้คู่ใจสายเฮลท์ตี้

แอปเปิ้ลเหลือง เป็นผลไม้ที่ในไทยนั้นไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก อีกทั้งยังหาซื้อได้ยากและราคาถือได้ว่าค่อนข้างที่จะสูงกว่าแอปเปิ้ลชนิดอื่น แต่รู้กันหรือไม่ว่าแอปเปิ้ลเหลืองนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมของคุณประโยชน์มากมาย จนได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งซูเปอร์ฟู้ด ที่ไม่ควรมองข้าม

ทำความรู้จักแอปเปิ้ลเหลือง

แอปเปิ้ลสีเหลือง เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของแอปเปิ้ล  ซึ่งมีลักษณะทรงกลมหรือกลมแป้น ก้นของผลมีรอยบุ๋มลึก ผิวเปลือกบางเรียบเนียน ผลมีเนื้อแน่น รสชาติหวาน มีกลิ่นหอม และมีสีเหลืองทองชวนให้น่ารับประทาน

โดยจุดเด่นของแอปเปิ้ลเหลืองนั่นก็คือเรื่องการบำรุงสายตา เพราะในแอปเปิ้ลเหลืองนั้นมีทั้งสารเบต้าแคโรทีนที่เป็นสารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา และมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยในบำรุงสายตาของเรา นอกจากนี้ในแอปเปิ้ลสีเหลืองนั้นยังมีสารอีกหนึ่งชนิดที่ชื่อว่าเควอร์ซิติน ซึ่งสารตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดต้อกระจกได้เป็นอย่างดี

และหากใครที่กำลังควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักแล้วล่ะก็ แอปเปิ้ลสีเหลืองอาจกลายเป็นอีกหนึ่งผลไม้โปรดเลยก็ว่าได้ เพราะว่าในแอปเปิ้ลเหลืองนั้นมีน้ำตาลฟรักโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นพลังงานอย่างช้าๆ แต่ร่างกายของเรานั้นจะสามารถดูดซึมและสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ภายใน 10 นาที ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเรานั้นค่อยๆ สูงขึ้น ต่างจากเราทานขนมหวานที่จะทำให้เราอิ่มนานนั่นเอง

นอกจากนี้แล้วแอปเปิ้ลเหลือง มีเพคติน ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารที่ช่วยทำให้ขับถ่ายได้ดีและช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญได้อีกด้วย                           

เรียกได้ว่าเจ้าแอปเปิ้ลสีเหลือง แม้จะหาทานยากไปนิด รวมถึงราคาที่อาจสูงกว่าแอปเปิ้ลสีอื่นๆ ทั่วไปซักหน่อย แต่สายเฮลท์ตี้อย่างเรา เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราจะได้รับจากเจ้าแอปเปิ้ลเหลือง บอกเลยว่าคุ้มค่าต่อการหามาทานและราคาที่จ่ายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

สามารถทำความรู้จักกับแอปเปิ้ลเหลืองเพิ่มเติมได้ที่ https://bangkokmakerfaire.com/แอปเปิ้ลเหลือง-แอปเปิ้ล/

มาทำความรู้จักกับเทอร์โมคัปเปิลกันดีกว่า

เทอร์โมคัปเปิล ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูใครหลายคนมากเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งนี้เป็นเครื่องมือเฉพาะทางในเรื่องของงานผลิตและอุตสาหกรรม ไม่ได้นำมาใช้กันในชีวิตประจำวันกันแต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ เทอร์โมคัปเปิล กันว่ามันคืออะไรแล้วทำไมจึงเป็นที่รู้จักกันดีในงานอุตสาหกรรม

เทอร์โมคัปเปิล คืออะไร

เทอร์โมคัปเปิล คือ เซนเซอร์วัดอุณหภูมิหรืออุปกรณ์วัดอุณหภูมิ ที่ใช้หลักการเปลี่ยนแปลงความร้อน หรืออุณหภูมิให้เป็นแรงเคลื่อนไฟฟ้า (emf) โดยเทอร์โมคัปเปิล จะประกอบไปด้วย ลวดโลหะตัวนำ 2 ชนิดที่แตกต่างกัน จากนั้นทำการเชื่อมปลายทั้ง 2 เข้าด้วยกัน เรียกปลายด้านนี้ว่า Measuring Point หรือ Hot Junction (T1)หรือจุดวัดอุณหภูมิ ส่วนปลายอีกข้างจะปล่อยว่างเรียกด้านี้ว่า Cold Junction (T2) หรือจุดอ้างอิง

เทอร์โมคัปเปิ้ล มีทั้งหมด 6 ชนิดเป็นโลหะผสมที่แตกต่างกัยมี ทั้ง Base Metal และ Noble Metal ซึ่งแต่ละชนิดจะใช้วัดในช่วงอุณหภูมิที่ต่างกัน ได้แก่ ชนิด E ชนิด J ชนิด K ชนิด M ชนิด N ชนิด T

เทอ์โมคัปเปิ้ล จะมีหลักการทำงานโดยเมื่อจุดเชื่อมต่อของโลหะทั้งสองถูกทำให้ร้อนหรือเย็นลงจะเกิดแรงดันไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมโยงและรู้ค่าระดับความร้อนได้

สาเหตุที่เทอร์โมคัปเปิ้ล เป็นที่นิยมในวงการอุตสาหกรรมก็เพราะว่าสามารถวัดระดับความร้อนในช่วงระดับความร้อนกว้างราคาไม่แพงและทนทานมาก ซึ่งมีความแตกต่างกันกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่ใช้วัดอุณหภูมิในเรื่องของช่วงระดับของอุณหภูมิที่แคบ และยังเสี่ยงที่จะเกิดความร้อนในตัวเอง นอกจากนี้ราคายังสุงกว่า และยังไม่มีความแข็งแรงทนทานต่อการใข้งานได้มากเท่ากับเทอร์โมคัปเปิ้ล

หลักการในการเลือกเทอร์โมคัปปเปิ้ลมาใช้งาน ก็คือ ดูเรื่องของข่วงอุณหภูมิ ความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน ความทนทานต่อสารเคมี รวมไปถึงข้อจำกัดในการติดตั้งหรือใช้งาน ซึ่งถือได้ว่าจำเป็นที่จะต้องเลือกอย่างรอบคอบเพราะการเลือกผิด ส่งผลต่อการใข้งานได้

เป็นยังไงกันบ้างคะ รู้จักกับเจ้าเทอร์โมคัปเปิ้ลกันมากขึ้นแล้ว ทีนี้ใครต้องการที่จะนำเจ้าเทอร์โมคัปเปิ้ลนี้ไปใช้งาน ก็จะให้เราเข้าใจหลักการทำงานของเจ้าเทอร์โมคัปเปิ้ลกันมากขึ้นแล้ว ซึ่งก็จะช่วยให้เราเลือกเทอร์โมคัปเปิ้ลได้ตรงต่อความต้องการใช้งานของตัวเอง

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทอร์โมคับเปิ้ล https://phiheating.com/th/phi-products/phi-thermocouple/

ดูดไขมันหน้าท้องกับหมอลูกหนูคุ้มจริงหรือไม่

หนึ่งในการทำศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันคงจะหนีไม่พ้นการดูดไขมัน เนื่องจากว่าเป็นการทำศัลยกรรมความงามที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ชัดเจน และสามารถตอบโจทย์กับชีวิตในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ในการดูดไขมันเองนั่นก็มีบริเวณที่เป็นที่นิยมทำกันอยู่นั่นคือ บริเวณหน้าท้อง เพราะบริเวณหน้าท้องนี้เป็นบริเวณที่รวบรวมและสะสมไขมันในร่างกายอยู่ในปริมาณมาก ทำให้ยากต่อการกำจัดด้วยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร

ดังนั้นวันนี้เราจะพามาดูกันว่าการดูดไขมันหน้าท้องที่หมอลูกหนู ดูดไขมันนั้นจะเกิดความคุ้มค่าจริงหรือไม่

หมอลูกหนู ดูดไขมัน

หมอลูกหนู ดูดไขมัน เป็นหนึ่งในสถานที่ให้บริการด้านการปรับลดรูปร่าง สัดส่วนของร่างกายด้วยเทคโนโลยีการดูดไขมันหลากหลายประเภทตามความเหมาะสมของคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ

โดยบริการของหมอลูกหนู ดูดไขมันนั้นก็มีหลากหลายบริเวณตั้งแต่บริเวณที่ไปจนถึงบริเวณที่เล็ก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก เหนียง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริการการเติมไขมันให้ร่างกายของผู้มาใช้บริการดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น เช่น เติมไขมันบริเวณหน้าอก เป็นต้น

ข้อดีของการดูดไขมันหน้าท้องที่หมอลูกหนู ดูดไขมัน

ที่หมอลูกหนู ดูดไขมันนั้นหากจะพูดถึงบริการด้านหน้าท้องในเรื่องของข้อดีนั้นก็เรียกได้ว่ามีหลายข้อและแต่ละข้อก็สามารถตอบโจทย์กับความต้องการของผู้คนยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

1. มีการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และปลอดภัย – ที่หมอลูกหนู ดูดไขมันจะใช้เทคโนโลยีนำเข้าที่มาความทันสมัยได้รับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากสากล ทำให้คนไข้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์การดูดไขมันหน้าท้องที่จะออกมานั้นมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และปลอดภัยแน่นอน

2. เทคนิคเฉพาะที่หมอลูกหนู ดูดไขมัน – ด้วยประสบการณ์ความชำนาญด้านการให้บริการการดูดไขมันแก่คนไข้ของหมอลูกหนูที่มีมายาวนานกว่า 15 ปี ทำให้หมอลูกหนูนั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของคนไข้ได้เป็นอย่างดี

3. มีการบริการที่เป็นกันเอง เรียบง่าย แต่ยังมีความเป็นมืออาชีพ – ที่หมอลูกหนู ดูดไขมันนั้นมีการให้บริการคนไข้แบบเป็นกันเอง เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกวิตกกังวลมากจนเกินไปทั้งก่อนดูดไขมัน ขณะทำการดูดไขมัน และภายหลังการดูดไขมันเสร็จ

4. ราคา ค่าใช้จ่าย กับผลลัพธ์ ที่คุ้มค่า – สิ่งสุดท้ายที่คนมักจะกังวลกันก็คือเรื่องของราคาและค่าใช้จ่าย หากใครหลายคนให้เครื่องมือที่ทันสมัย ผลลัพธ์ที่ดี การบริการที่น่าประทับใจก็อาจจะคิดว่าต้องมีราคาที่สูง แต่ที่หมอลูกหนูนั้นไม่ได้มีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงอย่างที่หลายๆ คนกังวลกัน โดยบอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่คนไข้จะได้แน่นอน

ทริคดีๆ ให้ปี่เซียะช่วยเรียกเงินไหลเข้าล้นกระเป๋า

เรียกได้ว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักอีกหนึ่งไอเทมยอดฮิตของสายมูอย่าง ปี่เซียะ กันอย่างแน่นอน เพราะปี่เซียะถือเป็นไอเทมที่สายมู ต้องมีเลยก็ว่าได้ เพราะถือว่าปี่เซียะเนี่ยเป็นตัวแทนแห่งการเรียกทรัพย์โชคลาภเงินทองให้ไหลมาเทมา วันนี้เรามีทริคดีๆ มาฝากกันว่า จะทำอย่างไรให้ปี่เซียะเรียกเงินทองไหลเข้ามาจนล้นกระเป๋า

ลักษณะที่ดีของปี่เซียะ

ปี่เซียะเป็นเครื่องรางของขลังที่เป็นรูปสัตว์โบราณตามความเชื่อของคนจีน มีลักษณะของสัตว์หลายชนิดผสมกัน ทั้งมังกร สิงโต กวาง นก และปลา มีลักษณะดีคือปากอ้ารับทรัพย์ หางกวักโชค ยกหัวข่มศัตรู ฝ่าเท้าตะปบเงินทอง ก้าวขาก้าวหน้า ลิ้นยาวตวัดโชค อกผึ่งน่าเกรงขาม ไม่มีรูทวารเพื่อกักเงินทอง

ปี่เซียะ บูชาอย่างไรให้เงินไหลเข้ากระเป๋า

  1. เลือกปี่เซียะให้ถูกรูปแบบ หากต้องการโชคลาภเงินทองให้ล้นกระเป๋านั้น ให้เลือกที่เหมาะสมกับงานและไลฟ์สไตล์เรา เพื่อให้งานไหลราบรื่น เงินไหลเข้า โดยปี่เซียะแบบเดี่ยว เหมาะกับคนที่เน้นการค้าขาย ผลกำไร ซื้อขายไหลลื่น ปี่เซียะแบบคู่ เน้นการเจรจาที่ตกลงกันง่ายไร้อุปสรรค
  2. ถ้าต้องการให้ปี่เซียะช่วยเรียกเงินทองให้ไหลเข้ามาจนล้นกระเป๋านั้น มีทริคง่ายๆ เลยคือ นอกจากการหมั่นบูชาปี่เซียะอย่างสม่ำเสมอแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำนั่นก็คือ การพูดขอและลูบตัวปี่เซียะเป็นประจำ ซึ่งจะกระตุ้นให้ปี่เซียะเชื่อมโยงกับผู้ที่สวมใส่ได้เป็นอย่างดี
  3. โดยการลูบปี่เซียะที่ควรทำก็คือ การลูบท้อง มีความหมายถึงการขับเคลื่อนให้ชีวิตไม่ลำบาก การลูบหัว หมายถึงความสบายใจคลายความกลุ้มใจ ลูบหลัง เพื่อเรียกโชคลาภ วาสนา ช่วยให้ปี่เซียะบันดาลสิ่งที่ต้องการให้เราได้อย่างสมใจที่เราตั้งความปราถนาเอาไว้

เรียกได้ว่าบทความนี้คงโดนใจสายมูหรือคนที่บูชาปี่เซียะกันอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นทริคง่ายๆ ที่จะเสริมให้ปี่เซียะเรียกเงินเรียกทองให้ไหลเข้ากระเป๋าจนล้นมีเงินเหลือเก็บเหลือใช้กันเลย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Rabbit point เพื่อจะได้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง

สำหรับคนที่ต้องการใช้บริการ bts นอกจากคุณจะต้องทำความเข้าใจกับ bts ราคา แล้ว คุณจะต้องทำความเข้าใจกับ Rabbit point ด้วย เพื่อให้คุณใช้ได้อย่างถูกต้อง วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องนี้ไปด้วยกัน ยิ่งคนที่เพิ่งเริ่มต้นในการใช้บริการบีทีเอส คุณยิ่งต้องใส่ใจในเรื่องเหล่านี้

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ Rabbit point
ใช้แรบบิท พอยต์ได้เมื่อคุณเดินทางอย่างน้อย 4 เที่ยว /สัปดาห์ คือ คุณจะต้องเดินทางอย่างน้อย 5 สถานี ตั้งแต่สถานีแรกเข้าภายในเส้นทางสถานีหมอชิตถึงสถานีอ่อนนุช หรือ สถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสะพานตากสิน และ แรบบิท พอยต์นั้นจะสะสมพอยต์เป็นรายสัปดาห์ เริ่มต้นทุกวันจันทร์ เวลา 03.00 น. และ มีการแจ้งเรื่องพอยต์ทุกวันพุธ นอกจากนี้ แรบบิท พอยต์ ยังสามารถแลกรับเที่ยวเดินทางฟรีได้แบบไม่จำกัด มีมูลค่าสูงสุดถึง 44 บาทเลยทีเดียว หากคุณไม่ค่อยได้ใช้แรบบิท พอยต์ ก็สามารถสะสมพอยต์ได้ 2 ปีเลยทีเดียว

เงื่อนไขในการใช้บริการของแรบบิท พอยต์
จำนวนเที่ยวเดินทางฟรีนั้นมันขึ้นอยู่กับจำนวนพอยท์ในบัญชีของสมาชิก Rabbit rewards และ ยังมีโอกาสแลกเที่ยวเดินทางฟรี แต่ว่าจะมีการกำหนดสถานีนะ คุณจะต้องศึกษาเงื่อนไขให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้ใช้พอยต์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่เข้าใจในการใช้พอยต์ก็สามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ได้เลย

ความจริงแล้ว เรื่องการใช้แรบบิท พอยต์นั้น เหมาะกับคนที่ใช้บริการ bts เป็นประจำ เนื่องจากคุณสามารถใช้พอยต์ในการเดินทางได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าคนที่ไม่ค่อยได้ใช้บริการ คุณอาจจะทิ้งพอยต์ไปฟรี ๆ เลยก็ได้ ส่วนคนที่ใช้งานเป็นประจำก็อยากให้เช็คพอยต์อยู่เสมอว่าตอนนี้แลกได้หรือยัง เหลืออยู่เท่าไร เป็นต้น

นอกจากคุณจะต้องรู้ว่า bts ราคา เท่าไรแล้ว คุณจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้บัตรต่าง ๆ ให้ดีด้วย ยิ่งคุณใช้งานบ่อย ๆ คุณจะเข้าใจมากขึ้น และ มีความชำนาญในการใช้งานด้วย เชื่อเถอะว่า การใช้แรบบิทพอยต์จะช่วยให้คุณประหยัดค่าเดินทางลงได้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bts.co.th/promotion/bts-challenge.html

« Older posts

© 2024 phuketboardriders

Theme by Anders NorenUp ↑