เดือน: พฤษภาคม 2021

สำหรับสาว ๆ หลายคนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันหมอลูกหนูเสร็จว่าต้องมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรแผลถึงหายไวที่สุด และไม่มีผลข้างเคียง วันนี้เราเลยนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาแชร์ต่อให้สาว ๆ หมดข้อสงสัยกัน

ดูดไขมัน หมอลูกหนู

การดูดไขมันกับหมอลูกหนูเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่ไม่พึงประสงค์ออกไปจากร่างกายด้วยวิธีที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานเพื่อให้ร่างกายของสาว ๆ มีรูปร่าง สัดส่วน ตามที่สาวต้องการ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตของสาว ๆ ไม่ต้องมานั่งกังวลเกี่ยวกับปัญหารูปร่างอีกต่อไป การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันหมอลูกหนูก็ไม่ยากและไม่ซับซ้อน ส่วนขั้นตอนและวิธีการดูดไขมันก็จะเลือกจากความเหมาะสมและความต้องการของคนไข้ โดยแต่ละขั้นตอนและวิธีก็จะมีความปลอดภัยสูง และวันนี้เราจะมาดูกันในเรื่องของการดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันหมอลูกหนูเสร็จ

การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันหมอลูกหนู

โดยขั้นตอนและวิธีในการดูตัวเองหลังทำการดูดไขมันเสร็จ คุณหมอลูกหนูก็จะอธิบายและแนะนำอย่างละเอียดหลังทำการดูดไขมันเสร็จ และจะนัดมาติดตามผลอยู่เสมอ โดยวิธีการดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันก็จะมีวิธีเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

• งดยาและอาหารเสริมโดยเฉพาะยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดประมาณ 2 อาทิตย์หลังการดูดไขมัน
• งดสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 1 เดือนหลังการดูดไขมันเสร็จ
• ทำความสะอาดบริเวณแผลให้สะอาดทุกวันจนกว่าจะตัดไหม
• ห้ามให้แผลโดนน้ำเป็นโดยเด็ดขาด
• ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยประมาณ 2 ลิตรต่อวัน
• หลีกเลี่ยงอาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมักดองเพื่อป้องกันเชื้อโรค
• รับประทานยาตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด
• สวมชุดยกกระชับตามที่คุณหมอแนะนำ
• ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด

ถ้าพูดถึงการดูดไขมันคางหรือดูดไขมันที่หน้าเพื่อทำการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวเข้ารูปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องทำศัลยกรรมตัดกราม วิธีการดูดไขมันนี้เป็นวิธีที่สามารถช่วยให้สาวๆ ที่ไม่มีความมั่นใจในรูปหน้าของตนได้ปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้ง่ายและไม่เจ็บตัวเหมือนเช่นในอดีต ซึ่งวิธีการดูดไขมันหรือการดูดไขมันที่หน้านั้นดีกว่าการทำศัลยกรรมอย่างไร มาลองเปรียบเทียบไปพร้อม ๆ กัน

เปรียบเทียบระหว่างการทำศัลยกรรมกับการดูดไขมัน แบบไหนดีกว่ากัน
สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียบสวยอย่างเป็นธรรมชาติและก็กำลังลังเลว่าจะใช้วิธีไหนในการทำระหว่างการดูดไขมันกับการทำศัลยกรรมปรับรูปหน้า มาเปรียบเทียบให้ทุกคนได้ดู ว่าการทำรูปแบบไหนดีอย่างไร

• เจ็บตัวน้อย
  ในการดูดไขมันคาง ดูดไขมันที่หน้า เป็นการใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะที่เปิดแผลเพียง 3 จุด เพื่อทำการดูดไขมัน และเป็นการดูดเฉพาะไขมันเพียงส่วนเล็ก ๆ ออกมาทำให้ผู้ทำไม่รู้สึกเจ็บหรือระบมบริเวณที่ทำการดูดไขมันแต่อย่างใด แต่สำหรับการทำศัลยกรรม ทางแพทย์จะทำการตัดกรามบางส่วนออก จากนั้นก็เชื่อมส่วนที่เหลือเข้าด้วยกัน หรือใช้วิธีการเหลา เพื่อให้เล็กลง ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ได้ผลจริงแต่จะต้องเจ็บตัวเป็นอย่างมาหลังจากทำศัลยกรรมเสร็จ
• ไม่ต้องพักฟื้น
  สำหรับการดูดไขมันที่หน้าหรือบริเวณคาง หลังจากทำการดูดไขมันเสร็จผู้ทำสามารถกับบ้านได้ หากมีอาการปวดหรือระบบบริเวณที่ดูดสามารถรับประทานยาแก้ปวดที่ทางแพทย์เตรียมไว้ไห้ได้ แต่การทำศัลยกรรมผู้ทำจะต้องทำการพักฟื้นอย่างน้อย 3 – 7 วัน ถึงจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ผู้ทำจะต้องทำการดูแลและตรวจเช็คแผลที่ทำการผ่าตัดบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้มีอาการอักเสบหรือเกิดรอยแผลเป็นได้
• ไม่ต้องงดอาหาร
  การทำศัลยกรรมผู้ทำอาจจะต้องทำการงดอาหารที่ใช้การคบเคี้ยวก่อนในช่วงแรก ๆ ที่ทำการตัดกรามและปรับรูปหน้าเสร็จ เพราะอาจจะกระทบกระเทือนบริเวณที่ทำการศัลยกรรมอยู่ก็เป็นได้ แต่สำหรับการดูดไขมันที่หน้าหรือไขมันคาง วิธีนี้คุณไม่ต้องงดอาหารแต่อย่างใด สามารถรับประทานได้ตามปกติ แถมอาการยังเจ็บไม่เท่ากับการทำศัลยกรรมอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อดีของการดูดไขมันที่หน้าและไขมันคาง หากใครที่กลัวความเจ็บบอกเลยว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด และใช้เวลาไม่นานก็หน้าเรียวสวยได้ทันที ซึ่งหากใครกำลังลังเลว่าจะเลือกวิธีไหนดี อิสสวีร์คลินิกเรามีทางออกให้กับสาวๆ เรามีบริการดูดไขมันให้กับสาวๆ ด้วยประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการดูดไขมันมามากกว่า 3,000 เคส สามารถดูรีวิวดูดไขมันก่อนการตัดสินใจได้เลยค่ะ